เราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีไม่ได้มาจากคุณภาพของวัตถุดิบอย่างเดียว แต่เริ่มมาจากการเข้าใจวัตถุดิบที่เราใช้ และนำไปใช้ให้ถูกต้อง
สำหรับแบรนด์ รา มิตรา เราเน้นให้กระเป๋าหนังใช้ได้นาน ยิ่งใช้ยิ่งสวย ดูแล้ว classic และ timeless เราเลยเลือกใช้หนัง Top-grain และ Full-grain เท่านั้น
แต่หนังวัวไม่ได้มีแค่2 ชนิดนี้ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกนังหนังแท้กันค่ะว่ามีชนิดไหนกันบ้าง แล้วแต่ละชนิดดีอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานแบบไหน
สำหรับแบรนด์ รา มิตรา เราเน้นให้กระเป๋าหนังใช้ได้นาน ยิ่งใช้ยิ่งสวย ดูแล้ว classic และ timeless เราเลยเลือกใช้หนัง Top-grain และ Full-grain เท่านั้น
แต่หนังวัวไม่ได้มีแค่2 ชนิดนี้ ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกนังหนังแท้กันค่ะว่ามีชนิดไหนกันบ้าง แล้วแต่ละชนิดดีอย่างไรและเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

Top Grain, Full Grain และ Corrected Grain คืออะไร
หนังท็อปเกรนและฟูลเกรนเป็นหนังเกรดสูงสุด ดูแลยากสุดแต่ก็ทนทานมากสุดเช่นกัน เพราะหนังTop-grain และ Full-grain นั้นจะมีลักษณะเฉพาะและเครื่องหมายของหนังเดิม แพราะจะไม่ถูกขัดหรือแก้ไข
เพื่อคงความธรรมชาติของหนัง
Full-grain Leather
ฟูลเกรนเป็นหนังจากส่วนบนของหนัง เป็นผิวนอกที่ยังไม่ได้ขัดหรือแก้ไข และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นรูขุมขนของผิวหนัง เป็นหนังที่เป็นธรรมชาติและมีราคาสูง และยิ่งใช้บ่อยมาดเท่าไหร่ก็จะเงางามมากเท่านั้น
Top-grain Leather
หนังท็อปเกรนคล้ายๆกับหนังฟูลเกรน ต่างกันที่หนังท็อปเกรนจะเป็นหนังที่นําไปขัดผิวเล็กน้อยเพื่อลดแผลหรือความไม่สมบูรณ์แบบของผิวหนัง เป็นหนังที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและใช้บ่อยในผลิตภัณฑ์เครื่องหนังราคา mid-tier ถึง high
Corrected-grain Leather
Corrected-grain leather คือหนังท็อปเกรนเช่นกัน แต่ผิวจะดูสม่ำเสมอมากกว่าหนัง Top-grain และ Full-grain เนื่องจากผ่านกระบวนการขัดเพื่อขจัดตำหนิทั้งหมดออก จากนั้นได้ปั้มลายนูนด้วยเกรนเทียมเพื่อให้ได้ลุคที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น แต่ความยืดหยุ่นก็จะน้อยกว่า Top-grain และ Full-grain เพราะผ่านกระบวนการพิมหรือปั้มลายนี้เอง
จริงๆแล้วชนิดของหนังไม่ได้มีแค่นี้ และยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากมาย เลยจะเก็บไว้เล้าสู่กันฟังในตอนหน้า แล้วเจอกันนะคะ
หนังท็อปเกรนและฟูลเกรนเป็นหนังเกรดสูงสุด ดูแลยากสุดแต่ก็ทนทานมากสุดเช่นกัน เพราะหนังTop-grain และ Full-grain นั้นจะมีลักษณะเฉพาะและเครื่องหมายของหนังเดิม แพราะจะไม่ถูกขัดหรือแก้ไข
เพื่อคงความธรรมชาติของหนัง
Full-grain Leather
ฟูลเกรนเป็นหนังจากส่วนบนของหนัง เป็นผิวนอกที่ยังไม่ได้ขัดหรือแก้ไข และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นรูขุมขนของผิวหนัง เป็นหนังที่เป็นธรรมชาติและมีราคาสูง และยิ่งใช้บ่อยมาดเท่าไหร่ก็จะเงางามมากเท่านั้น
Top-grain Leather
หนังท็อปเกรนคล้ายๆกับหนังฟูลเกรน ต่างกันที่หนังท็อปเกรนจะเป็นหนังที่นําไปขัดผิวเล็กน้อยเพื่อลดแผลหรือความไม่สมบูรณ์แบบของผิวหนัง เป็นหนังที่มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นและใช้บ่อยในผลิตภัณฑ์เครื่องหนังราคา mid-tier ถึง high
Corrected-grain Leather
Corrected-grain leather คือหนังท็อปเกรนเช่นกัน แต่ผิวจะดูสม่ำเสมอมากกว่าหนัง Top-grain และ Full-grain เนื่องจากผ่านกระบวนการขัดเพื่อขจัดตำหนิทั้งหมดออก จากนั้นได้ปั้มลายนูนด้วยเกรนเทียมเพื่อให้ได้ลุคที่สม่ำเสมอยิ่งขึ้น แต่ความยืดหยุ่นก็จะน้อยกว่า Top-grain และ Full-grain เพราะผ่านกระบวนการพิมหรือปั้มลายนี้เอง
จริงๆแล้วชนิดของหนังไม่ได้มีแค่นี้ และยังมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากมาย เลยจะเก็บไว้เล้าสู่กันฟังในตอนหน้า แล้วเจอกันนะคะ